เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ CIEE 2023 Young Apprentice CIEE (Business-School Integration Center) เป็นหนึ่งในสถาบันที่รับผิดชอบในการเป็นตัวกลางในการจ้างพนักงานฝึกงานรุ่นเยาว์โดยบริษัทต่างๆ
ในปี 2566 โครงการ CIEE Young Apprentice จะยังคงเป็นประตูสำคัญสู่ตลาดงานสำหรับคนรุ่นใหม่ชาวบราซิล
นอกเหนือจากการเสนอโอกาสในการจ้างงานและการเรียนรู้ โปรแกรมนี้ยังช่วยต่อสู้กับปัญหาการออกจากโรงเรียนกลางคันโดยกำหนดให้เยาวชนต้องเข้าเรียนในสถาบันการศึกษา
เพื่อเข้าร่วมโครงการ CIEE Young Apprentice ในปี 2023
เยาวชนจะต้องมีคุณสมบัติบางประการ เช่น มีอายุระหว่าง 14 ถึง 24 ปี อยู่ในสถาบันการศึกษา ไม่มีประวัติการทำงาน และปฏิบัติตามภาระหน้าที่ในการเลือกตั้งและการทหาร (สำหรับชายหนุ่ม)
นอกจากนี้ คนหนุ่มสาวจะต้องผ่านกระบวนการคัดเลือก ซึ่งอาจรวมถึงการสัมภาษณ์และการทดสอบ เพื่อรับการคัดเลือกเข้ารับตำแหน่งที่มีอยู่
บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ CIEE Young Apprentice จะต้องจัดให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีสุขภาพดีแก่เยาวชน ตลอดจนแผนการเรียนรู้ที่รวมถึงกิจกรรมเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ
ในระหว่างที่ฝึกงาน ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับค่าตอบแทน ซึ่งแตกต่างกันไปตามบริษัทและปริมาณงาน นอกจากนี้ ยังมีสิทธิได้รับสวัสดิการต่างๆ เช่น บัตรกำนัลค่าเดินทาง วันลาพักร้อนที่ได้รับค่าจ้าง เงินเดือนเดือนที่ 13 และกองทุนชดเชยการเลิกจ้าง (Severance Indemnity Fund: FGTS)
สำหรับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ CIEE Young Apprentice นี่เป็นโอกาสพิเศษที่จะได้รับประสบการณ์วิชาชีพและความรู้เชิงทฤษฎีที่เป็นประโยชน์ต่ออาชีพในอนาคต นอกจากนี้ โครงการนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม เช่น ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา และการทำงานเป็นทีม
ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 14 ถึง 24 ปี และกำลังมองหาโอกาสในการเข้าสู่ตลาดงาน โครงการ CIEE Young Apprentice อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณในปี 2023 อย่าลืมค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานว่างและเข้าร่วมกระบวนการคัดเลือกเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ประสบความสำเร็จนี้
ข้อกำหนดสำหรับ Young Apprentice 2023:
- มีอายุระหว่าง 14 ถึง 24 ปี
- เข้าศึกษาในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรือวิชาชีพ;
- ไม่มีประวัติในบัตรงานมาก่อน;
- ต้องพร้อมทำงานตามเวลาทำการที่บริษัทผู้รับจ้างกำหนดไว้;
- ให้ทันสมัยกับภาระหน้าที่ในการเลือกตั้งและการทหารของคุณ (สำหรับชายหนุ่ม)
นอกเหนือจาก ข้อกำหนด บริษัทบางแห่งอาจกำหนดเกณฑ์อื่นๆ เช่น ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน ทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม เป็นต้น
สิ่งสำคัญคือผู้ที่สนใจจะเป็นลูกจ้างฝึกงานรุ่นเยาว์จะต้องตรวจสอบข้อกำหนดเฉพาะของแต่ละบริษัทหรือสถาบันที่เสนอโปรแกรม เพื่อให้แน่ใจว่าตนมีสิทธิ์เข้าร่วมในกระบวนการคัดเลือก
การเป็นเด็กฝึกงานรุ่นเยาว์มีประโยชน์หลายประการต่อคนหนุ่มสาว เช่น:
ประสบการณ์วิชาชีพ: การเข้าร่วมโครงการผู้ฝึกงานรุ่นเยาว์จะทำให้เยาวชนมีโอกาสได้รับประสบการณ์วิชาชีพและสัมผัสสภาพแวดล้อมการทำงาน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาและการเติบโตทางวิชาชีพของพวกเขา
การฝึกอบรม : นอกเหนือจากประสบการณ์จริงแล้ว ผู้ฝึกงานรุ่นเยาว์ยังมีโอกาสเข้าร่วมหลักสูตรเชิงทฤษฎีและการฝึกอบรมที่จัดขึ้นโดยบริษัทหรือสถาบันที่เสนอโปรแกรม ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะและความรู้ของพวกเขา
ค่าตอบแทน : ลูกจ้างฝึกงานรุ่นเยาว์จะได้รับค่าตอบแทนตามสัดส่วนของชั่วโมงการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถจ่ายค่าเล่าเรียนและปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาได้
สวัสดิการ : นอกเหนือจากค่าตอบแทนแล้ว เด็กฝึกงานยังมีสิทธิได้รับสวัสดิการอื่นๆ เช่น บัตรกำนัลค่าเดินทาง วันหยุดพักร้อนที่มีค่าจ้าง เงินเดือนที่ 13 และ FGTS (กองทุนรับประกันเวลาการทำงาน)
การรวมทางสังคม: โครงการฝึกงานเยาวชนถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการรวมทางสังคม เนื่องจากโครงการนี้มอบโอกาสให้กับเยาวชนที่มักพบว่าตนเองมีปัญหาในการเข้าสู่ตลาดงาน ไม่ว่าจะเพราะขาดประสบการณ์หรือขาดโอกาสก็ตาม
การพัฒนาส่วนบุคคล: การเข้าร่วมโครงการฝึกงานสามารถช่วยให้เยาวชนพัฒนาทักษะส่วนบุคคล เช่น ความรับผิดชอบ ความตรงต่อเวลา ความมุ่งมั่น และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จทั้งในชีวิตส่วนตัวและอาชีพ
ความเป็นไปได้ในการจ้างงานถาวร: บริษัทหลายแห่งที่จ้างพนักงานฝึกงานรุ่นเยาว์มีนโยบายจ้างพนักงานที่เก่งกาจในช่วงที่ฝึกงาน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่คนรุ่นใหม่จะได้เริ่มต้นอาชีพในบริษัทที่มีชื่อเสียง
ดังนั้นการเป็นผู้ฝึกงานรุ่นเยาว์จึงสามารถนำมาซึ่งประโยชน์หลายประการแก่เยาวชน ซึ่งพวกเขาสามารถได้รับประสบการณ์ ความรู้ และพัฒนาทักษะต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตทางอาชีพและส่วนตัวได้
หากต้องการสมัครโอกาสการฝึกงานสำหรับเยาวชน คุณต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ ซึ่งอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถาบันหรือบริษัทที่เสนอโปรแกรม
ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนทั่วไปบางประการที่สามารถช่วยให้เยาวชนสมัครโอกาสการฝึกงานสำหรับเยาวชนได้:
วิจัยบริษัทหรือสถาบันที่เสนอโครงการ Young Apprentice: เยาวชนสามารถค้นหาทางอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์หางานสำหรับบริษัทที่เสนอโครงการ Young Apprentice หรือหาข้อมูลจากโรงเรียน สหภาพแรงงาน หรือหน่วยงานสวัสดิการเด็กของตน
ตรวจสอบข้อกำหนด: เป็นสิ่งสำคัญที่คนหนุ่มสาวจะต้องตรวจสอบข้อกำหนดและเกณฑ์ที่กำหนดโดยบริษัทหรือสถาบันที่เสนอโปรแกรม เช่น อายุขั้นต่ำ ระดับการศึกษา เอกสารที่จำเป็น เป็นต้น
ลงทะเบียนบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มรับสมัครงาน: บริษัทและสถาบันหลายแห่งใช้แพลตฟอร์มรับสมัครงานออนไลน์ ซึ่งคนรุ่นใหม่สามารถส่งประวัติย่อและสมัครงานในตำแหน่งที่ว่างได้ สิ่งสำคัญคือคนรุ่นใหม่ต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องและอัปเดตประวัติย่อให้ตรงกับข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
มีส่วนร่วมในกระบวนการคัดเลือก: หลังจากสมัครตำแหน่ง Young Apprentice แล้ว เยาวชนอาจได้รับเชิญให้มีส่วนร่วมในกระบวนการคัดเลือก ซึ่งอาจรวมถึงการสัมภาษณ์ การทดสอบทางทฤษฎีและปฏิบัติ พลวัตกลุ่ม และอื่นๆ
รอผล: หลังจากเข้าร่วมกระบวนการคัดเลือกแล้ว เยาวชนจะต้องรอผลการคัดเลือก ซึ่งสามารถประกาศได้ทางอีเมล โทรศัพท์ หรือแพลตฟอร์มรับสมัครออนไลน์ หากได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงาน เยาวชนต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทหรือสถาบันที่รับสมัครเพื่อเริ่มงาน
โปรดจำไว้ว่าบริษัทหรือสถาบันแต่ละแห่งอาจมีกระบวนการคัดเลือกและการสมัครที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คนหนุ่มสาวจะต้องตรวจสอบข้อมูลเฉพาะสำหรับแต่ละโอกาสที่พวกเขาต้องการสมัคร